ทันห์ ตรา
532 ยอดดู
สารบัญ
หากเมื่อ 10 ปีก่อน การตลาดยังคงวนเวียนอยู่กับ ไอเดีย ปัจจุบัน การตลาดยังคงวนเวียนอยู่กับ ข้อมูลและความสามารถในการปรับตัว
AI ไม่ได้เป็น "เทคโนโลยีแบ็กเอนด์" อีกต่อไป แต่เป็น หัวใจสำคัญของทุกแคมเปญการตลาดยุคใหม่ ตั้งแต่การสร้างเนื้อหา การปรับแต่งโฆษณา ไปจนถึงการปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้า
กรณีศึกษา: AI ในการตลาดระดับโลก
จากข้อมูลของ McKinsey 65% ของธุรกิจทั่วโลกได้นำ AI มาประยุกต์ใช้ในการทำการตลาด และ 77% ของนักการตลาด ใช้ AI เพื่อปรับแต่งเนื้อหาและเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของลูกค้า (HubSpot, 2024)
ความจริงก็คือ: AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ – AI ขยายความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ด้วยความเร็ว ข้อมูล และ ระบบอัตโนมัติ
นี่คือ 6 ตัวอย่างทั่วไปที่แสดงให้เห็น AI ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่แท้จริง
Meta เปิดตัวแคมเปญ AI-dorable ใช้ AI สร้างภาพถ่ายที่ “น่ารักอย่างเหลือเชื่อ” (เช่น แมวบนเมฆ สุนัข เป็นนักบิน)
วัตถุประสงค์: แสดงให้เห็นถึงพลังของ AI ภาพ พร้อมกับรักษา ความรู้สึกเชิงบวกและมนุษยธรรม
ผลลัพธ์:
ข้อความเชิงกลยุทธ์: Meta ไม่ได้ขาย AI แต่พวกเขา "ขายอารมณ์" เกี่ยวกับ AI โดยเปลี่ยนเทคโนโลยีแบบแห้งให้เป็นประสบการณ์ที่เข้าถึงได้
แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ร่วมมือกับ ลีโอ เบอร์เน็ตต์ การใช้ ChatGPT เพื่อกำหนด “สูตรไก่ทอดที่สมบูรณ์แบบ”: กรอบ ฉ่ำ และมันเยิ้ม
จากข้อมูลความรู้สึกของผู้ใช้ AI แนะนำสูตรอาหารใหม่ๆ และ ผลิตภัณฑ์จริงได้เปิดตัว
ผลลัพธ์:
กลยุทธ์: การเปลี่ยนข้อมูลผู้บริโภคให้เป็นนวัตกรรมในโลกแห่งความเป็นจริง – AI ไม่เพียงแต่ช่วยด้านการตลาด แต่ยังช่วยสร้างผลิตภัณฑ์จริงอีกด้วย
Nike ผสานรวม AI เพื่อวิเคราะห์ พฤติกรรม สีโปรด และประวัติการซื้อ ทำให้ลูกค้าสามารถ ออกแบบรองเท้าตามความต้องการส่วนบุคคล
ผลลัพธ์:
ข้อความ: เมื่อลูกค้ามีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์ พวกเขาจะไม่ “ซื้อ” อีกต่อไป แต่พวกเขาจะ “สร้างสรรค์” แบรนด์ของตัวเอง”
ไฮนซ์ใช้เทคโนโลยี DALL·E (AI สร้างภาพจากข้อความ) เพื่อ “ถาม AI ว่าซอสมะเขือเทศไฮนซ์หน้าตาเป็นอย่างไร”
ผลลัพธ์: ภาพทุกภาพที่ AI สร้างขึ้น แม้ไม่มีโลโก้ก็ตาม ดูเหมือนขวดไฮนซ์
สรุปกลยุทธ์:
ยืนยันว่า ไฮนซ์ = ไอคอนซอสมะเขือเทศ จนถึงจุดที่ AI “คิดแบบ ผู้บริโภค”
นี่คือจุดสูงสุดของคุณค่าแบรนด์: เมื่อการจดจำแบรนด์ก้าวข้ามโลโก้และกลายเป็นภาพลักษณ์ในจิตใต้สำนึก
Coca-Cola ร่วมมือกับ OpenAI (GPT-4 + DALL-E) เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม สร้างสรรค์เวทมนตร์ที่แท้จริง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพของ Coca-Cola ด้วย AI
ผลลัพธ์:
กลยุทธ์: เปลี่ยนลูกค้าให้เป็น ผู้ร่วมสร้างแบรนด์ ไม่ใช่แค่ผู้บริโภค
แอป Starbucks ผสานรวม AI เพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าโดยอิงจากประวัติการซื้อ สภาพอากาศ และพฤติกรรม
AI จะแนะนำเครื่องดื่มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคลโดยอัตโนมัติ
ผลลัพธ์:
ข้อความ: การปรับแต่งตามความต้องการส่วนบุคคลไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป แต่มันคือ มาตรฐานใหม่ของประสบการณ์ลูกค้า
สิ่งที่แบรนด์ข้างต้นมีเหมือนกันคือ:
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในเวียดนามมักเผชิญกับอุปสรรค 3 ประการ:
GTG CRM ไม่ใช่แค่ลูกค้า แพลตฟอร์มการจัดการ แต่เป็นระบบนิเวศการตลาด AI ที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถจำลองโมเดลของ "บริษัทใหญ่" ข้างต้นได้ในระดับที่เหมาะสม
→ ความช่วยเหลือ ธุรกิจขนาดเล็กทำในสิ่งที่ Coca-Cola, Meta หรือ Heinz ทำ นั่นคือ สร้างแคมเปญสร้างสรรค์จากข้อมูลและอารมณ์
→ การจำลองแบบจำลอง ของ Starbucks Digital Flywheel – แต่เหมาะสำหรับ SMEs เวียดนาม
→ ธุรกิจไม่ต้องเดาอีกต่อไปว่า "แคมเปญใดมีประสิทธิภาพ" แต่ มองเห็นข้อมูลจริงได้อย่างแท้จริง เวลา
ตัวอย่างเช่น Nike, Coca-Cola หรือ Starbucks พิสูจน์แล้วว่า AI ไม่ได้ทำการตลาดเพื่อมนุษย์ แต่ช่วยขยายความคิดสร้างสรรค์ การปรับแต่ง และการวัดผลของมนุษย์
ธุรกิจที่รู้วิธีนำ AI มาใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะมีข้อได้เปรียบในระยะยาว เพราะเข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งกว่าและตอบสนองได้เร็วกว่าคู่แข่ง
GTG CRM คือ “ฐานปล่อยเทคโนโลยี” ช่วยให้ธุรกิจในเวียดนามลดช่องว่างดังกล่าว:
ตั้งแต่การสร้างเนื้อหา การลงโฆษณา การจำแนกประเภทลูกค้า ไปจนถึงการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในระบบเดียว





