ข้อมูลเชิงลึก

เคล็ดลับปฏิบัติเพื่อช่วยให้มือใหม่สร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพได้ตั้งแต่เริ่มต้น

ทู ฮิวเยน

532 ยอดดู

สารบัญ

การทำโฆษณาบน Facebook ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับการเปิดแคมเปญและรอรับคำสั่งซื้อ อันที่จริง มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์โดยไม่เห็นผลลัพธ์ เพราะพวกเขายังไม่เข้าใจสูตรสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพ

เคล็ดลับอยู่ที่องค์ประกอบพื้นฐานสามประการ: ผลิตภัณฑ์ - เนื้อหา - เป้าหมาย ผลิตภัณฑ์คือรากฐาน เนื้อหาคือหัวใจสำคัญ ในการดึงดูดลูกค้า และเป้าหมายหลักคือเข็มทิศที่จะช่วยนำทางไม่ให้หลงทาง เมื่อคุณผสมผสานองค์ประกอบทั้งสามนี้อย่างถูกต้อง คุณ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณ ดึงดูดลูกค้าเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างระบบการขายที่ยั่งยืน

ผลิตภัณฑ์คือรากฐาน

ผลิตภัณฑ์คือ “หัวใจ” ของทุกแคมเปญโฆษณา คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมาย เขียนเนื้อหาที่สร้างสรรค์ หรือ ใช้งบประมาณมหาศาล แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่ดึงดูดใจมากพอ มันก็เป็นเพียงการสิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ

ผลิตภัณฑ์ที่มี จุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ จะสร้างข้อได้เปรียบที่สำคัญ:

  • ลูกค้าจะมองหาผลิตภัณฑ์นั้นด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการโฆษณาได้อย่างมาก
  • อัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป็นผู้ซื้อสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจำนวนมาก
  • งบประมาณสามารถขยายได้ง่ายโดยที่ราคาประมูลไม่เพิ่มขึ้นเร็วเกินไป
    • ต้องการเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการระบุ "จุดเด่น" ที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ของคุณและนำไปใช้ประโยชน์ในเนื้อหาโฆษณาของคุณหรือไม่? คุณสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่: 3 ข้อผิดพลาดในการสร้างเนื้อหาโฆษณา Facebook ที่ทำให้งบประมาณของคุณสูญเปล่า

      USP - จุดขายที่เป็นเอกลักษณ์

      การดำเนินการเพื่อ ตัวอย่าง:

      • การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์นี้แก้ปัญหาอะไร? อะไรคือคุณสมบัติที่แตกต่างจากคู่แข่ง? ทำไมลูกค้าถึงควรเลือกคุณมากกว่าคนอื่น ๆ
      • เน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูงในตลาด สอดคล้องกับอารมณ์ของผู้บริโภค (ความงาม สุขภาพ ครอบครัว…) และมีกำไรสูงพอที่จะรองรับการโฆษณาได้

      ตัวอย่างเช่น เมื่อกระแส “ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ” เฟื่องฟู ผลิตภัณฑ์อย่างเครื่องปั่นขนาดเล็กหรือขวดน้ำเก็บความเย็น มียอดสั่งซื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เพียงเพราะผลิตภัณฑ์เหล่านั้นตอบโจทย์ความต้องการที่ถูกต้อง ในเวลาที่เหมาะสม และแก้ปัญหาที่ผู้บริโภคเผชิญอยู่

      เนื้อหาคือหัวใจ

      โฆษณาบน Facebook หรือแพลตฟอร์มใด ๆ มีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแรกเท่านั้นที่จะตัดสินความสำเร็จหรือความล้มเหลว หากคุณไม่ สร้างความประทับใจในทันที คุณก็เหมือนกับ “โยนเงินทิ้งไปเปล่า ๆ”

      1. รูปภาพ

      รูปภาพที่มีประสิทธิภาพต้องมีองค์ประกอบสามอย่าง ได้แก่ สวยงาม กระชับ และสื่อสารข้อความได้อย่างชัดเจน

      จำกัดข้อความบนรูปภาพเพื่อหลีกเลี่ยงความรกตา และใช้กฎข้อความ 20% ที่คุ้นเคย

      ปุ่มกระตุ้นการดำเนินการ (CTA) ควรใช้สีโทนอบอุ่น เช่น สีแดง สีส้ม หรือสีเหลือง เพื่อให้โดดเด่น

      และที่สำคัญที่สุด: ต้องปฏิบัติตามนโยบายการโฆษณาเสมอ - หลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพที่ไม่เหมาะสม เชิงลบ หรือเกินจริง เกี่ยวกับประโยชน์ของผลิตภัณฑ์

      2. วิดีโอ

      วิดีโอเป็น "อาวุธ" ที่ทรงพลังที่สุด หากคุณรู้วิธีใช้ ภายใน 15 วินาทีแรก ผู้ชมจะตัดสินใจว่าจะดูต่อหรือ จะข้ามไป

      มีสูตรดึงดูดความสนใจสองแบบที่ใช้กันทั่วไป:

      • แสดงประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของผลิตภัณฑ์ (USP) ในไม่กี่วินาทีแรก
      • หรือกระตุ้นปัญหาหรือจุดที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่เพื่อดึงดูดความสนใจ
        • ตัวอย่างเช่น คลิปโฆษณาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ เพียงแค่เริ่มต้นด้วยฉาก "นักเรียนสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วหลังจาก 3 เดือน" ก็จะได้อัตราการรับชมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับวิดีโอแนะนำที่ยาวกว่า

          3. หัวข้อและข้อความโฆษณา

          หัวข้อควรสั้นกระชับและเน้นประโยชน์หลักที่ลูกค้าจะได้รับ

          อย่าลืมใส่คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ที่ชัดเจน เช่น "ลงทะเบียนเลย" "รับข้อเสนอวันนี้" หรือ "ส่งข้อความเพื่อขอคำปรึกษา"

          เนื้อหาโฆษณา Facebook ของ GTG CRM

          เป้าหมายคือหลักการชี้นำ

          ในการโฆษณา การเลือกเป้าหมายที่ผิดก็เหมือนกับการเผาเงินทิ้ง

          แต่ละเป้าหมายจะทำให้ตัวชี้วัดหนึ่งถูกลง แต่ก็อาจทำให้ตัวชี้วัดอื่นๆ เพิ่มขึ้นได้

          เป้าหมายของแคมเปญโฆษณาบน Facebook

          ตัวอย่าง: ถ้า คุณเลือกเป้าหมายเป็น "ไลค์" หากคุณเลือก CPM ที่มีต้นทุนต่ำ ต้นทุนจะถูกลง แต่โดยทั่วไปอัตราการแปลงจะต่ำมาก ในทางกลับกัน หากคุณเลือกเป้าหมายการแปลง (Conversion goal) ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น แต่จะสร้างคำสั่งซื้อได้ง่ายกว่า

          หลักการคือ อย่าหลงไปกับตัวเลือกราคาถูก เลือกเป้าหมายที่เชื่อมโยงโดยตรงกับ KPI ที่แคมเปญต้องการ

          เพื่อให้เข้าใจแต่ละเป้าหมายได้ดีขึ้นและเลือกได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โปรดดูด้านล่าง: เป้าหมายโฆษณา Facebook ยอดนิยมเพื่อเพิ่มการแปลงและยอดขาย

          การเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์โฆษณา Facebook สำหรับผู้เริ่มต้น

          ขั้นตอนที่ 1: กำหนดงบประมาณ
          • งบประมาณขนาดใหญ่ (10–20 ล้านบาทขึ้นไป): กำหนดเป้าหมายกว้างๆ เพื่อให้อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องสามารถค้นหาลูกค้าเป้าหมายได้
          • งบประมาณขนาดกลาง (1–2 ล้านบาท): กำหนดเป้าหมายแคบลงตามเพศ อายุ หรือที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
          • งบประมาณขนาดเล็ก (<1 ล้านบาท): ควรใช้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มและกำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำมาก

          ตัวอย่าง: ด้วยงบประมาณขนาดเล็กสำหรับผลิตภัณฑ์แฟชั่นแบรนด์ท้องถิ่น การกำหนดเป้าหมายแคบๆ ไปยังกลุ่มอายุ 18–25 ปีในเมืองใหญ่ๆ มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการกำหนดเป้าหมายแบบกว้างๆ

          ระดับชาติ

          ขั้นตอนที่ 2: กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

          • สินค้าทั่วไป → กำหนดเป้าหมายกว้างๆ เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพอัลกอริทึม
          • สินค้าเฉพาะทาง (อสังหาริมทรัพย์ อาหารเพื่อสุขภาพ หลักสูตร…) → สแกน UID จากกลุ่ม/แฟนเพจที่เกี่ยวข้อง หรือเรียกใช้ Custom Audiences จากอีเมล หมายเลขโทรศัพท์

          หมายเหตุ: อย่าใส่ความสนใจมากเกินไปในกลุ่มเป้าหมายเดียว ยิ่ง "ผสม" มากเท่าไหร่ การเรียนรู้ของเครื่องจักรก็จะยิ่งยากต่อการปรับให้เหมาะสมมากขึ้นเท่านั้น

          ขั้นตอนที่ 3: ดำเนินการทดสอบเนื้อหาและ A/B

          เตรียมตัวอย่างอย่างน้อย 2-3 ตัวอย่างที่แตกต่างกัน: คุณสามารถเปลี่ยนรูปภาพ เปลี่ยนข้อความ หรือเปลี่ยน CTA ได้

          เรียกใช้ตัวอย่างเหล่านั้นพร้อมกันเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ "ชนะ"

          ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่ากลุ่มโฆษณาขนาดเล็กหลายกลุ่ม

          อย่าทุ่มงบประมาณทั้งหมดของคุณไปกับกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียว

          แต่ให้สร้างกลุ่มเล็กๆ หลายกลุ่ม (50,000-200,000 ต่อวัน)

          หลังจาก ภายใน 24-48 ชั่วโมง ให้ปรับขนาดกลุ่มที่มีประสิทธิภาพและปิดกลุ่มที่ล้มเหลว

          ในทางปฏิบัติ: การตั้งค่าที่เหมือนกันสองแบบอาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

          ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบและปรับให้เหมาะสมอีกครั้ง

          ทุกๆ 24 ชั่วโมง ให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด: CPC, CTR, CPM, ROAS…

          หากราคาโฆษณาเริ่มเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านไปสองสามวัน ให้สร้างแคมเปญใหม่แทนที่จะพยายามบังคับให้ราคาเพิ่มขึ้น

          หลักการสำคัญในการปรับงบประมาณโฆษณาให้เหมาะสม

          • อย่าทุ่มเงินทั้งหมดไปกับโฆษณาเดียว กลุ่ม; ควรแบ่งกลุ่มออกเพื่อทดสอบเสมอ
          • อย่าเพิ่มงบประมาณอย่างกะทันหัน (เพิ่มได้สูงสุดเพียง 20% สำหรับงบประมาณขนาดใหญ่ หรือเพิ่มเป็นสองเท่าสำหรับงบประมาณขนาดเล็ก)
          • ควรจัดสรรงบประมาณ 10-20% สำหรับการทดสอบ A/B เสมอ
          • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีงบประมาณขั้นต่ำสำหรับการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อให้มีข้อมูลเพียงพอ (≥50,000 รายการต่อวัน)
          • ปรับขนาดโฆษณาตามข้อมูลจริง ไม่ใช่ตามสัญชาตญาณ
          • โดยรวม: ผลิตภัณฑ์ เนื้อหา กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ และการแปลง ต้องประสานกันทั้งหมด

            สรุป

            โฆษณา Facebook เป็นเพียง จะได้ผลดีเมื่อผสมผสานผลิตภัณฑ์ เนื้อหา และเป้าหมายที่เหมาะสมเข้าด้วยกัน พร้อมด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน ด้วยวิธีนี้ คุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มยอดสั่งซื้อได้อย่างยั่งยืน

            อย่าปล่อยให้งบประมาณของคุณสูญเปล่า ลองใช้สูตรนี้กับแคมเปญครั้งต่อไปของคุณ หรือลองใช้ GTG CRM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหา จัดการข้อมูล และดำเนินการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในแพลตฟอร์มเดียว

เพิ่มประสิทธิภาพงาน เร่งการเติบโตของธุรกิจ

ทดลองใช้ฟรี 14 วัน
ฟีเจอร์ครบทุกอย่าง
ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต